ภาพการแข่งขัน | วีดีโอคลิป
สนาม แฟรตตัน พาร์ค, อังกฤษ
ผู้ชมในสนาม 20,223 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เวลา 23.15 น. วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2550
ผู้ตัดสิน มาร์ค แคลตเทนเบิร์ก
แล้วปอร์ทสมัธ ทำให้ตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ชิพยังคงกว้างขึ้นสำหรับเชลซี เมื่อพวกเขาสามารถเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงได้ 2 – 1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
โดยปอร์ทสมัธ ทำประตูขึ้นนำก่อนจากลูกยิงของแม็ทธิว เทย์เลอร์ ในช่วงครึ่งแรก และแมนฯ ยูไนเต็ด ก็พยายามตีเสมอแต่ในเกมนี้เดวิด เจมส์ โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมป้องกันลูกยิงของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และไรอัน กิ๊กส์ ก่อนที่ริโอ เฟอร์ดินานด์ จะทำเข้าประตูตัวเองช่วยให้ปอร์ทสมัธขึ้นนำเป็น 2 – 0 และจอห์น โอเชีย ก็ทำประตูตีไข่แตกให้แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้ทีมพ้นจากความพ่ายแพ้ไปได้
การได้เห็นเชลซี เอาชนะสเปอร์ส และเก็บ 3 แต้มไปก่อนหน้านี้ ทำให้ความกดดันมาตกอยู่กับแมนฯ ยูไนเต็ด เนื่องจากขณะนี้พวกเขามีคะแนนนำเชลซี เหลือเพียง 3 แต้มเท่านั้น
ในขณะที่ปอร์ทสมัธ เองก็ต้องการชัยชนะในบ้านเนื่องจากใน 4 นัดก่อนหน้านี้พวกเขายังไม่สามารถเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ด ได้เลย
เริ่มเกมฟาน เดอร์ ซาร์ ก็ได้ออกแรงป้องกันลูกโหม่งของคานู และนั่นก็เหมือนเป็นสัญญาณเตือนแมนฯ ยูไนเต็ด และทำให้พวกเขาเริ่มกระตือรือร้นมากขึ้น
จากนั้นโรนัลโด้ ก็ได้ยิงฟรีคิก แต่บอลก็หลุดออกนอกกรอบไป และเขาก็ได้ยิงอีกครั้งหลังจากนั้นแต่ก็ถูกเจมส์ป้องกันไว้ได้
หลังจากนั้นดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ก็ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษและถูกเจมส์ ทำฟาวล์ล้มลงแต่กรรมการไม่ให้เป็นจุดโทษ ต่อมารูนี่ย์ก็ถูกไพรมัส เสียบล้มในเขตโทษแต่ผู้ตัดสินก็ยังให้ไม่เป็นจุดโทษ
จนกระทั่งเกมผ่านมาได้ครึ่งชั่วโมง ปอร์ทสมัธ ก็ได้ประตูขึ้นนำ เมื่อคีแรน ริชาร์ดสัน ถูกเบนยานี่ แย่งบอลไปได้บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ และได้ยิงเต็มข้อ บอลถูกฟาน เดอร์ ซาร์ ปัดออกมาได้ แต่กลับไปเข้าทางเทย์เลอร์ ได้ยิงซ้ำเข้าประตูไป ปอร์ทสมัธ ขึ้นนำ 1 – 0
หลังจากเสียประตูแมนฯ ยูไนเต็ด ก็โต้กลับบ้าง โดยไมเคิล คาร์ริค ได้โอกาสยิงแต่บอลก็เฉี่ยวเสาออกไป ตามด้วยถูกยิงของเวย์น รูนี่ย์ จากระยะ 25 หลาแต่ก็หลุดออกนอกกรอบไป ก่อนที่ลูกยิงของดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ จะถูกป้องกันไว้ได้อย่างสวยงามโดยเดวิด เจมส์
แต่ปอร์ทสมัธก็ยังคงน่ากลัวและเกือบทำประตูที่ 2 ได้ก่อนหมดครึ่งแรก เมื่อลินวอย ไพรมัส ได้โหม่งลูกเตะมุมของแกรี่ โอนีล แต่ฟาน เดอร์ ซาร์ ก็ป้องกันไว้ได้
เริ่มเกมครึ่งหลังเซอร์ อเล็กซ์ ก็ส่งไรอัน กิ๊กส์ ลงเล่นแทนคีแรน ริชาร์ดสัน เนื่องจากแมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการแต้มในนัดนี้ และพวกเขาก็เกือบตีเสมอได้ตั้งแต่ต้นเกม เมื่อกิ๊กส์ ได้เปิดบอลผ่านกองหลังปอร์ทสมัธไปให้รูนี่ย์ แต่เขากลับถูกผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้า
จากนั้นโรนัลโด้ ก็ได้เตะมุมไปหน้าประตูแต่เจมส์ ก็ปัดบอลออกมาได้ก่อน ตามด้วยจังหวะที่โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ จะยิงซ้ำแต่โลร็อง ก็เคลียร์บอลออกมาได้
ต่อมาเจมส์ก็ยังต้องทำงานหนักป้องกันลูกยิงของกิ๊กส์ ตามด้วยการปัดลูกโหม่งของเวส บราวน์ ได้อีกถือว่าเขาช่วยให้ทีมไม่เสียประตูหลายครั้งหลายคราเลยทีเดียว
แม้แมนฯ ยูไนเต็ด จะบุกอย่างหนักแต่ปอร์ทสมัธ ก็ใช่ว่าจะพักเกม เมื่อเทย์เลอร์ ได้เปิดบอลให้ฌอน เดวิส ยิงแต่ฟาน เดอร์ ซาร์ ก็โชว์การป้องกันที่สวยงามไว้ได้
เกมผ่านมาจนถึงนาทีที่ 89 แต่แล้วแมนฯ ยูไนเต็ด ก็เสียประตูที่ 2 อย่างน่าผิดหวังเมื่อเฟอร์ดินานด์ ทำเข้าประตูตัวเอง จากจังหวะที่เทย์เลอร์ ตั้งใจจะเปิดให้ลัวลัว แต่กองหลังทีมชาติอังกฤษก็เข้าสกัดบอลและพยายามจ่ายคืนให้ฟาน เดอร์ ซาร์ แต่ผู้รักษาประตูทีมปีศาจแดงก็วิ่งออกมาสวนทางกัน ทำให้ลูกจ่ายคืนของเฟอร์ดินานด์ เข้าประตูไปอย่างง่ายๆ ปอร์ทสมัธขึ้นนำ 2 – 0
แต่อย่างไรก็ดี ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็สามารถทำประตูตีไข่แตกได้ เมื่อโซลชาร์ ได้ยิงแต่เจมส์รับบอลหลุดมือ บอลมาเข้าทางโอเชีย ยิงซ้ำเข้าประตูไป
แม้จะใกล้หมดเวลาก็ยังมีเวลาพอสำหรับอลัน สมิธ ให้โชว์ฟอร์มยิงบอลเต็มข้อ แต่เจมส์ก็ยังคงป้องกันไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
จบเกมปอร์ทสมัธ เอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ 2 – 1 ทำให้ทีมจ่าฝูงยังคงมีคะแนนเท่าเดิมและนั่นก็ทำให้เชลซี ซึ่งลงแข่งก่อนหน้านี้และเก็บชัยชนะไปได้ มีคะแนนตามมาติดๆ เหลือระยะห่างเพียง 3 คะแนนเท่านั้น (บรรยายเกมโดย โอปอล)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ปอร์ทสมัธ
เดวิด เจมส์ 1 ( น. 77)
โลร็อง เอตาเม่ 10 ( น. 39)
ลินวอย ไพรมัส 2
เดยาน สเตฟาโนวิช 3
ฌิมี่ ตราโอเร่ 6
แม็ทธิว เทย์เลอร์ 14 ( น. 30)
แกรี่ โอนีล 26 ( น. 81)
ฌอน เดวิส 28
ริชาร์ด ฮิวจ์ส 22
เบนยามิน เอ็มวารูวารี่ 25
เอ็นวานโก้ คานู 27
สำรอง
เจมี่ แอชดาวน์ 15
โนเอ พามาโร่ต์ 11
นิโก้ ครานจ์ก้าร์ 19 น. 81 เอ็นวานโก้ คานู 27
เทรเซอร์ ลัว ลัว 32 น. 67 เบนยามิน เอ็มวารูวารี่ 25
สเวโตสลาฟ โตโดลอฟ 9
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 1
จอห์น โอเชีย 22 ( น. 90)
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5 ( ทำเข้าประตูตัวเอง น. 89)
เวส บราวน์ 6
กาเบรียล ไฮน์เซ่ 4
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
พอล สโคลส์ 18
ไมเคิล คาร์ริค 16
คีแรน ริชาร์ดสัน 23
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7
เวย์น รูนี่ย์ 8
สำรอง
โทมัสซ์ คุสซ์แซค 29
ปาทริซ เอฟร่า 3
ไรอัน กิ๊กส์ 11 ( น. 92) น. 46 คีแรน ริชาร์ดสัน 23
โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 20 น. 59 ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
อลัน สมิธ 14 น. 77 ไมเคิล คาร์ริค 16
สถิติของเกม
ปอร์ทสมัธ ประตู 2, ยิงตรงกรอบ 9, เตะมุม 8, ฟาวล์ 14, ล้ำหน้า 2, ใบเหลือง 3, การครองบอล 47%
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 1, ยิงตรงกรอบ 6, ยิงหลุดกรอบ 8, โดนบล็อค 1, เตะมุม 7, ฟาวล์ 3, ล้ำหน้า 3, ใบเหลือง 1, การครองบอล 53%
คะแนนความสามารถ
ปอร์ทสมัธ เดวิด เจมส์ 8, โลร็อง เอตาเม่ 7, ลินวอย ไพรมัส 8, เดยาน สเตฟาโนวิช 6, ฌิมี่ ตราโอเร่ 6, แม็ทธิว เทย์เลอร์ 7, แกรี่ โอนีล 6, ฌอน เดวิส 6, ริชาร์ด ฮิวจ์ส 5, เบนยามิน เอ็มวารูวารี่ 7, เอ็นวานโก้ คานู 5, นิโก้ ครานจ์ก้าร์ (สำรอง) 5, เทรเซอร์ ลัว ลัว (สำรอง) 6
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 5, จอห์น โอเชีย 6, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 4, เวส บราวน์ 6, กาเบรียล ไฮน์เซ่ 7, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 5, พอล สโคลส์ 5, ไมเคิล คาร์ริค 6, คีแรน ริชาร์ดสัน 5, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 6, เวย์น รูนี่ย์ 6, ไรอัน กิ๊กส์ (สำรอง) 6, โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ (สำรอง) 6, อลัน สมิธ (สำรอง) 6
Por