คาร์ลอส เตเบซ, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, นานี่ และแอนเดอร์สัน พวกเขาเหล่านี้คือนักเตะที่เข้าสู่โรงละครแห่งความฝัน ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะบางราย สร้างความประหลาดใจให้แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่เชื่อว่าหลังจากนั้น ในความรู้สึกของเรด อาร์มี่ ซึ่งเป็นชื่อเรียกสำหรับผู้สถาปนาตัวเองเป็นสาวกผีแดงหลายๆ คน คงต้องเกิดคำถามในใจกันบ้าง สำหรับตำแหน่งในแผงมิดฟิลด์ตัวกลาง ไม่ว่าจะทั้งตัวเก่า และตัวใหม่ ซึ่งมองถึงตอนนี้ มีนักเตะในตำแหน่งเดียวกันถึง 5 คนด้วยกัน คือแอนเดอร์สัน เพลย์เมคเกอร์ตัวกลั่นชาวบราซิล, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ มิดฟิลด์ตัวรับคนขยัน, ไมเคิล คาร์ริค โฮลดิ้ง มิดฟิลด์ค่าตัวแพง, ดาร์เรน เฟลทเชอร์ มิดฟิลด์มดงานชาวสก๊อต และพอล สโคลส์ กระดูกสันหลังตัวสำคัญของทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่ต้องการประสบความสำเร็จตลอดเวลา เมื่อมองจากฐานความสำเร็จในรอบ 10 – 15 ปี ที่ผ่านมา บวกกับความนิยม และความคาดหวังของแฟนบอล ซึ่งในการแข่งขันเกมฟุตบอลอันหฤโหดซึ่งลงเตะกันหลายนัดอย่างบ้าคลั่ง ในลีกอังกฤษเช่นนี้ อีกทั้งจำนวนแมตช์ที่เพิ่มขึ้นจากบอลยุโรป และบอลถ้วยในประเทศ ทำให้แนวคิดในเรื่อง การหมุนเวียนนักเตะลงสนามจึงเป็นสิ่งจำเป็นต้องเรียกใช้ในเวลาต่อมา
ผ่านกันไปแล้ว 5 เดือนสำหรับการแข่งขันฟุตบอลลีกยุโรป เมื่อมองทางฝั่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เราจะเห็นกันว่า แผงมิดฟิลด์คู่กลางของทีมยังไม่ลงตัวมากนัก ในแง่ของการจัดตัว “คู่กลางตัวจริง” ซึ่งที่ผ่านมา เราจะเห็นแต่การสลับกันเล่นของมิดฟิลด์ตัวกลางคนต่างๆ คนแล้วคนเล่า ซึ่งถือว่าผลออกมาได้ดีพอสมควรเมื่อมองถึงอันดับในตารางคะแนน หรือผลการแข่งขันในเกมยุโรป
ถ้ามองดีๆ เราจะพบว่าทางเลือกการจัดตัวของท่านเซอร์ อเล็กซ์ ในแผงกองกลางของทีม เน้นไปในการใช้งานในแต่ละเกม แบบนัดต่อนัด ยกตัวอย่างคือจากเกมพบกับลิเวอร์พูล หรือดาร์บี้ เคาน์ตี้ ซึ่งการเลือกใช้คู่กองกลางจะเน้นไปที่ความสามารถ จุดเด่นของแต่ละคน ให้เหมาะกับแทคติกฝั่งตรงข้าม อาทิ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ซึ่งมีจุดเด่นในการตัดเกม จะเหมาะกับเกมลิเวอร์พูล เพราะเป็นเกมเปิด และต้องการชะลอเกมรุกอันดุดันของลิเวอร์พูล ลง ซึ่งจะเข้าทางกับแทคติกตั้งรับแล้วสวนกลับของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันเป็นแทคติกในเกมนั้นพอดี และนัดเจอดาร์บี้ เคาน์ตี้ ซึ่งเลือกใช้กองกลางที่มีเซนส์การจ่ายบอลสูงอย่าง คาร์ริค และเฟลทเชอร์ ในการทะลุทะลวงฝ่ายตรงข้ามที่ตั้งรับ ซึ่งจะมีประโยชน์ในการปั้นเกมหรือเข้าทำมากกว่า
เมื่อพอล สโคลส์ กลับมาจากอาการบาดเจ็บ ถ้ามองในแง่ของการจัดตัว มีปัญหาแน่ แต่ถ้ามองในแง่ของทีม นั่นคือทีมกำลังมีขุมกำลังที่พร้อมรบ กับการต่อสู้อันยาวนานที่เหลืออยู่อีกหลายเดือน ในความคิดของผมหรือคนส่วนใหญ่ ยังไงชื่อของ พอล สโคลส์ ก็ยังขายได้ หายกลับมาเมื่อไหร่ ได้ลงเล่นตัวจริงแน่นอน ปัญหาคือแล้วใครล่ะ จะมาจับคู่กับ พอล สโคลส์?
เรามาวิเคราะห์ในแต่ละคนกันครับ
ไมเคิล คาร์ริค
พาร์ทเนอร์ของสโคลซี่ ชุดแชมป์ลีก และรองแชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว จุดเด่นของเขาคือการวางบอลที่แม่นยำ ผ่านบอลไว้ใจได้ และการเชื่อมเกมในแดนกลาง ซึ่งสโคลส์ เองก็ออกปากชมว่า เขาเป็นผู้แต่งเกมในแดนกลางให้สมดุล
แม้มิสเตอร์ 18.6 ล้านปอนด์ เข้ามาสู่ทีมปีแรกแล้วช่วยทีมคว้าโทรฟี่ ได้ทันทีก็จริง แต่ต้องยอมรับว่า เนื่องจากตัวเลือกมีมากขึ้น และการที่สโคลส์ ต้องลงต่ำมาช่วยแย่งบอลในหลายๆ ครั้ง ในการจับคู่กับเขา เพราะเขาจะเป็นประเภทดักบอลมากกว่าวิ่งเข้าแย่ง บางทีก็ทำให้มิดฟิลด์หัวแดงเพลิง ต้องรับภาระมากเกินไปเช่นเดียวกัน บางทีถ้าเขาอยากยึดตำแหน่งแบบถาวร เขาคงต้องปรับสไตล์การเล่นให้ดุดันมากกว่านี้ซักหน่อย ผมให้ % ตำแหน่งตัวจริงเขา 60%
โอเว่น ฮาร์กรีฟส์
ด้วยฟอร์มการเล่นในแต่ละนัดที่ได้รับโอกาสลงสนาม ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ชื่อของโอเว่น ฮาร์กรีฟส์ เป็นชื่อแรกๆ เลยทีเดียวสำหรับการจัดอันดับครั้งนี้ การเล่นของฮาร์กรีฟส์ อาจดูไม่งดงาม หรือเพลินตา แต่เขาเป็นประเภทที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี นั่นคือแย่งบอล แย่งบอล และแย่งบอล แผงกองหลังงานเบาขึ้นเยอะ จนสังเกตได้ เมื่อมีเขาลงสนาม ผมให้ 90% เลยสำหรับคนนี้
แอนเดอร์สัน
หนุ่มน้อยจากปอร์โต้ ปรับตัวเข้ากับทีมอย่างรวดเร็ว สิ่งหนึ่งที่นักเตะกองกลางคนอื่นไม่มี แต่เขามีคือมิติในการเล่นที่หลากหลาย และความรวดเร็วในการพลิกบอลทำเกม ซึ่งในฟุตบอลสมัยใหม่เช่นนี้ ต้องถือว่าแอนเดอร์สัน เป็นนักเตะที่เป็นคำตอบในเกมแบบนี้ได้ดีที่สุด
ด้วยอายุอานามที่ยังน้อย ยังมีเวลาพัฒนาอีกเยอะแยะมากมาย เจ้าของฉายาโรนัลดิญโญ่ 2 ก็คืออนาคตสุดยอดนักเตะดีๆ นั่นเอง ผมให้ 70% ครับ สำหรับตอนนี้เท่านั้น
ดาร์เรน เฟลทเชอร์
“คุณต้องรู้ว่าเขาเคยทำอะไรให้เราสมัยอยู่ทีมเยาวชนบ้าง” นี่คือคำพูดของคนที่ดูดาร์เรน มาตั้งแต่ชุดเยาวชน ดาร์เรนในตอนนั้นเป็นนักเตะที่น่าจับตามองมาก และเฟอร์กูสัน ก็เก็บเขาไว้จนก้าวขึ้นขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ แต่เราจะเห็นได้ว่า ดาร์เรน ยังไม่สามารถงัดฟอร์มอันสุดยอดออกมาได้มากนัก หนุ่มน้อยเจ้าของตำแหน่งกัปตันทีมชาติสก๊อตแลนด์ที่อายุน้อยที่สุดผู้นี้ จะต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกเยอะ ซึ่งเราหวังว่าเขาจะกลับมาเป็นดาร์เรน คนเดิม ที่ครั้งหนึ่งยกย่องกันว่าเป็น นิว เดวิด เบ๊คแฮม
เคารพในฝีเท้าของเฟลทเชอร์ นะครับ แต่ถ้ามองจากองค์ประกอบต่างๆ ผมว่าเขามีโอกาสเพียง 40% เท่านั้น
สรุปก็คือความเป็นไปได้ในการที่ฮาร์กรีฟส์ จะได้จับคู่กับสโคลส์ มีสูงครับ ในความคิดของผม แล้วพวกคุณล่ะ มีตัวเลือกแผงกองกลางในใจกันบ้างหรือยัง?
Putt_Hub^^
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC